เช็กพื้นที่เสี่ยง ฝุ่น PM 2.5 พร้อมวิธีรับมือ

เช็กพื้นที่เสี่ยง ฝุ่น PM ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 เป็นฝุ่นที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 2.5 ไมครอน เกิดจากการเผาไหม้ทั้งจากยานพาหนะ การเผาวัสดุการเกษตร ไฟป่า และกระบวนการอุตสาหกรรม สามารถเข้าไปถึงถุงลมในปอดได้ เป็นผลทําให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ และโรคปอดต่าง ๆ หากได้รับในปริมาณมากหรือเป็นเวลานานจะสะสมในเนื้อเยื่อปอด ทําให้การทํางานของปอดเสื่อมประสิทธิภาพลง ทําให้หลอดลมอักเสบ มีอาการหอบหืด

โดยฝุ่น PM 2.5 เป็นฝุ่นที่มีขนาดเล็กที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพอย่างมาก ปัญหาฝุ่น PM 2.5 นี้ ถือเป็นปัญหาหนักอกหนักใจของชาวกรุงเทพฯ ปริมณฑล และหลายจังหวัดในประเทศไทย ที่มาแต่ละครั้งก็สร้างผลกระทบยืดยาวหลายเดือน เพราะไม่ว่าจะมุมไหน ใกล้หรือไกลใจกลางเมือง ก็ล้วนแล้วแต่มีค่าฝุ่นในระดับที่ไม่น่าอยู่อาศัย และเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

ในขณะที่รอหน่วยงานต่าง ๆ ทำการวิจัยและแก้ปัญหาฝุ่นนั้น เราก็สามารถหาวิธีรับมือกันเองอย่างเร่งด่วนได้ด้วย ลองไปดูกันว่า พื้นที่ไหนที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 สูง พื้นที่ไหนบ้างเป็นเขตปลอดภัย ปัจจัยอะไรทำให้เกิดฝุ่น และมีวิธีอะไรในการรับมือฝุ่นแบบเร่งด่วนที่ทำได้เองทันที

ฝุ่น PM 2.5 เป็นปัญหาใหญ่ของคนกรุงเทพฯ และปริมณฑล

เช็กพื้นที่เสี่ยงจากฝุ่น PM 2.5

ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ในกรุงเทพฯ วันที่ 10 มกราคม 2568 ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพฯ 43.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ภาพรวมคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

5 เขตในกรุงเทพฯ ที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 สูงสุด

1. เขตหนองแขม 61.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

2. เขตทวีวัฒนา 57.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

3. เขตธนบุรี 54.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

4. เขตบางบอน 54.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

5. เขตภาษีเจริญ 53.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

5 โซนในกรุงเทพฯ ที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 สูงสุด

1. กรุงเทพเหนือ (เขตจตุจักร, บางซื่อ, ลาดพร้าว, หลักสี่, ดอนเมือง, สายไหม และบางเขน)

ค่าฝุ่น 38.9-50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

2. กรุงเทพตะวันออก (เขตบางกะปิ, สะพานสูง, บึงกุ่ม, คันนายาว, ลาดกระบัง, มีนบุรี, หนองจอก, คลองสามวา และประเวศ)

ค่าฝุ่น 37.1-47.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

3. กรุงเทพกลาง (เขตพระนคร, ดุสิต, ป้อมปราบศัตรูพ่าย, สัมพันธวงศ์, ดินแดง, ห้วยขวาง, พญาไท, ราชเทวี และวังทองหลาง)

ค่าฝุ่น 35.4-48.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

4. กรุงเทพใต้ (เขตปทุมวัน, บางรัก, สาทร, บางคอแหลม, ยานนาวา, คลองเตย, วัฒนา, พระโขนง, สวนหลวง และบางนา)

ค่าฝุ่น 34.45-48.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

5. กรุงธนเหนือ (เขตธนบุรี, คลองสาน, จอมทอง, บางกอกใหญ่, บางกอกน้อย, บางพลัด, ตลิ่งชัน และทวีวัฒนา)

ค่าฝุ่น 41.3-57.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

6. กรุงธนใต้ (เขตภาษีเจริญ, บางแค, หนองแขม, บางขุนเทียน, บางบอน, ราษฎร์บูรณะ และทุ่งครุ)

ค่าฝุ่น 41.6-61.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

เขตที่มักมีค่าฝุ่น PM 2.5 สูงในกรุงเทพฯ

1. เขตใจกลางเมือง

พื้นที่ในเขตตัวเมืองที่เป็นแหล่งธุรกิจหลัก โดยเฉพาะเขตพื้นที่สีแดงที่เป็นเขตพาณิชยกรรม และเขตพื้นที่สีน้ำตาลที่มีที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก เขตเหล่านี้เป็นเขตที่มีความเสี่ยงสูง และมักมีค่าฝุ่น PM 2.5 สูงมากกว่าพื้นที่อื่น ๆ

2. เขตแหล่งอุตสาหกรรม

เขตที่มีฝุ่น PM 2.5 ไม่ได้มีแต่เฉพาะในเขตใจกลางเมือง แต่ยังรวมถึงเขตพื้นที่สีม่วง ซึ่งเป็นเขตที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งควันที่มาจากโรงงานและการสัญจรในแถบนี้เป็นที่มาของฝุ่นพิษในกรุงเทพฯ

3 ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าฝุ่น PM 2.5

เป็นที่น่าสนใจว่าค่าฝุ่นมีขึ้น-ลงตลอดเวลา โดยทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ได้แก่

1. ปัจจัยที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์

กิจกรรมในชีวิตประจำวันของเราทุกคนล้วนส่งผลต่อการเกิดฝุ่นประเภทนี้ไม่มากก็น้อย เช่น การเพิ่มปริมาณการใช้รถที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซล การปล่อยควันพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม และการเผาขยะในที่โล่งแจ้ง

2. สภาวะอากาศและฤดูกาล

ฝุ่น PM 2.5 ในกรุงเทพฯ นั้นเกิดขึ้นทุกปี เพียงแต่ว่าแต่ละครั้งที่เกิดฝุ่นพิษ อาจจะมีดีกรีค่าฝุ่นที่มาก-น้อยต่างกัน และเวลาที่เกิดอาจจะมีความช้า-เร็วต่างกันไปในแต่ละปี โดยปกติแล้วฝุ่นประเภทนี้จะเกิดขึ้นในช่วงเปลี่ยนฤดูกาลประมาณเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ของทุกปี

แต่ด้วยสภาวะโลกร้อนปัจจุบันทำให้เวลาเริ่มต้น-สิ้นสุดของฤดูกาลมีการเปลี่ยนแปลง ผนวกกับปริมาณการใช้พลังงานของผู้คนในเมืองที่มากขึ้น ซึ่งปัจจัยทางธรรมชาติและวิถีการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบันนี้ล้วนส่งผลต่อการเกิดฝุ่น PM 2.5 ค่อนข้างเร็วและมากกว่าที่เคยเป็นมา

3. ทิศทางลม

กระแสลมในแต่ละวันมีผลต่อค่าฝุ่นที่จะเกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่ ในปัจจุบันก็มีแอปพลิเคชันและเว็บไซต์หลายแห่งให้บริการตรวจวัดพื้นที่ฝุ่น PM 2.5 ทั้งในกรุงเทพฯ และเขตที่มีค่าฝุ่นสูงในจังหวัดต่าง ๆ

ติดตามตรวจค่าฝุ่นในแต่ละวันได้ที่

– กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง (กรมควบคุมมลพิษ)

– เว็บไซต์ Airvisual

– เว็บไซต์ aqicn

วิธีการรับมือฝุ่น PM 2.5

ฝุ่น PM 2.5 ต้องติดตามและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะผู้ที่เจ็บป่วยใน 4 กลุ่มโรค ได้แก่

– โรคระบบทางเดินหายใจ

– ระบบหัวใจและหลอดเลือด

– ระบบผิวหนัง

– ระบบตา

รวมถึงคนส่วนใหญ่ที่ต้องอยู่ในพื้นที่เสี่ยง เนื่องจากอาจส่งผลต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้น และระยะยาว โดยมีวิธีการป้องกันได้ดังนี้

1. สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น

ใช้อุปกรณ์ป้องกันระบบทางเดินหายใจ หรือหน้ากากที่กรองฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ตามมาตรฐาน หรือ N95 เนื่องจากผ้าเช็ดหน้า หรือผ้าปิดปาก ไม่สามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้ ซึ่งเป็นหน้ากากที่สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กมากได้ โดยหน้ากากจะต้องมีสายรัดสองสาย พร้อมทั้งมีส่วนกดที่เป็นโลหะเพื่อกระชับแน่นกับสันจมูก

ทั้งนี้ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ทำการทดสอบประสิทธิภาพของหน้ากากอนามัยแบบทั่วไปที่ไม่ใช้แบบ N95 พบว่า ประสิทธิภาพการกรองฝุ่นอยู่ที่ 66.37% เท่านั้น ส่วนถ้าสวมใส่ซ้อนทับกัน 2 ชั้นพบว่า ประสิทธิภาพการกรองฝุ่นอยู่ที่ 89.75% อีกแบบคือการใส่หน้ากากอนามัย 1 ชั้นซ้อนด้วยกระดาษเช็ดหน้าพับครึ่ง 1 แผ่นด้านใน ประสิทธิภาพการกรองฝุ่นอยู่ที่ 98.05%

2. หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง

ลดกิจกรรมที่ต้องออกแรงกลางแจ้ง เช่น การออกกำลังกาย เนื่องจากการออกกำลังกายอาจเพิ่มอัตราการหายใจมากขึ้นกว่าปกติ 10-20 เท่า ซึ่งจะนำมลพิษเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจได้มากขึ้น

3. เตรียมยาให้พร้อม

สำหรับผู้เป็นโรคที่มีความเสี่ยง ได้แก่ โรคระบบทางเดินหายใจ ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบผิวหนัง ระบบตา รวมถึงผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ แพ้ง่าย เช่น แพ้ฝุ่น แพ้อากาศ ควรเตรียมพกยาที่จำเป็นต้องใช้ติดตัวไว้เสมอ

4. คนกลุ่มเสี่ยง เลี่ยงออกจากบ้าน

ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง คือ ผู้ที่อาจจะมีอาการป่วยได้ง่ายกว่าคนทั่วไป ได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ และผู้มีโรคประจำตัว ควรหลีกเลี่ยงการออกจากบ้าน รวมถึงหลีกเลี่ยงการเปิดประตูและหน้าต่างทิ้งไว้ หากคุณเข้าข่ายเป็นกลุ่มบุคคลเหล่านี้ควรหลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน

5. มีอาการต้องรีบพบแพทย์

หากมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ควรรีบไปพบแพทย์ หรือสามารถขอคำปรึกษาก่อนได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ

หมวดหมู่
มกราคม 2025
จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส. อา.
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031  
หมวดหมู่